วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

iTunes Wi-Fi Sync จุดเปลี่ยน Apple สู่โลกไร้สาย

iTune ช่วย Apple ในหลาย ๆ อย่าง เช่นการเอาเพลง เอาหนัง เข้าเครื่อง ซึ่งแม้จะดูยากซักนิด แต่ทำให้รอดพ้นปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์มาได้ ไม่โดนฟ้องร้อง เช่น Napster แต่ว่าจะว่าไปจุดแข็งข้อนี้ ก็สร้างจุดบอดให้กับ iDevice มากมาย เพราะทุกอย่างต้องรอการเสียบสาย ถึงจะ Sync ได้ (หรือไม่ก็เอาไป Jailbreak)

คู่แข่งอย่าง Android แก้ไขและแซงหน้าไปนานแล้ว Sync สิ่งต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องเสียบสาย ขณะที่สินค้าตระกูล i ทุกตัว จะเอาอะไรใส่ไปในเครื่องที่ต้องเสียบสายและ Sync ผ่าน iTune เท่านั้น

ปฏิบัติการทลายจุดบอดจึงเริ่มขึ้น
iOS5 จึงมาพร้อมกับ Function หลัก iTune Wi-Fi Sync ไม่ง้อสายก็ Sync ได้





Apple ภูมิใจเสนอ นั่นก็คือ Wi-Fi Sync ทำให้เราไม่ต้องเสียบสาย USB อีกต่อไป ขอแค่อุปกรณ์เข้ามาอยู่บน Network เดียวกันก็พอ

ดังภาพพอ Device ทุกตัวอยู่บน Network เดียวกัน ก็เริ่ม Sync ได้เลย



วิธีการเปิด Wi-Fi Sync สำหรับ iTune

1. เปิด iTune พร้อมเสียบ iDevice ของเรา ไม่ว่าจะเป็น iPad, iPhone, iPod Touch
2. เลือกที่ Device ของเรา และ คลิกที่ Sync with this ... over Wi-Fi

3. หลังจากนั้นคลิกปุ่ม Apply

ย้ำ!!! ถ้าไม่ทำขั้นตอนนี้ Wi-Fi Sync จะใช้ไม่ได้



การบังคับ Sync ใน iDevice

โดยปกติ Wi-Fi Sync จะทำงานโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว... แต่้ถ้าต้องการบังคับ Sync ในแบบทันทีทันใดก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่ iDevice ของเรา

1. เข้าไปที่ Setting > General > iTune Wi-Fi Sync
2. คลิกที่ Sync Now



ข้อเน้นย้ำสำหรับ iTune Wi-Fi Sync
  • ทั้ง PC และ iDevice จะต้องอยู่บนโครงข่ายเดียวกัน เช่น iDevice เชื่อมผ่าน WiFi แต่ PC เชื่อมต่อผ่าน LAN ก็ได้ ถ้าสุดท้ายอยู่บน LAN เดียวกัน
  • ต้องเปิดฟังก์ชันนี้ทั้ง iDevice และใน iTune ด้วย มิฉะนั้น เจ้า iDevice ของเราจะฟ้องว่าไม่สามารถ Sync ได้

iMessage ส่ง SMS ฟรี จากค่าย Apple (ตอนที่ 1)


iOS5 เปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันพฤหัสที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับเครื่องมื่อใหม่อีกเพียบ หนึ่งในนั้นก็คือ iMessage โปรแกรม ที่จะส่งข้อความหากันระหว่าง สำหรับสินค้าตระกูล i ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คล้าย ๆ กับ BBM จากค่าย BlackBerry และก็ท้าชนโดยตรงกับ Whatsapp โปรแกรมที่ให้ทุก Platform ส่งข้อความหากันได้

ในวันแรกที่ iOS5 แถลงข่าว พร้อมฟังก์ชัน iMessage ก็ทำได้ Whatsapps เปิดให้ Download ฟรีทันที เพื่อดึงลูกค้าในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นพอ iOS5 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็เปิดให้โหลดฟรีอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้พอคาดเดาได้ว่าจะเปิดให้ Download ฟรีตลอดไป


หลักการทำงานของ iMessage

การ ส่งข้อความเหมือนส่ง SMS ปกติจาก iPhone โดยหากคนที่ส่ง SMS หาก ใช้ iPhone และลงทะเบียน iMessage ไว้แล้ว จะเป็นบับเบิ้ลสีฟ้าท้ายชื่อของเขา พร้อมปุ่ม Send ก็จะเป็นสีฟ้า ซึ่งเป็นการส่งฟรี แต่หากเป็นสีเขียวแปลว่าเป็นการส่ง SMS ปกติ(ตอนแรก ๆ ปุ่มกดจะเป็นสีเทา ๆ อยู่สักพัก เพื่อเช็คว่าส่งผ่านอะไรดี)

การส่งข้อความไป iPad โปรแกรม iMessage ใช้อ้างอิงชื่อผู้รับจากอีเมล์ในการส่ง (ใช้แค่ชื่อในการอ้างอิง ไม่ได้มีการส่งข้อความใด ๆ ไปที่อีเมล์นั้น)

สรุป
  • ส่ง SMS ไป iPhone ให้สังเกต Bubble สีฟ้า หมายถึง ส่งฟรี ถ้าสีเขียวคือ SMS ปกติ หมายถึงเสียเงิน
  • ส่ง SMS ไปที่ iPad ก็ให้ใส่อีเมล์ แทนการใส่เบอร์โทรศัพท์ (iPad 1 WiFi ไม่สามารถใช้ได้)


วิธีเปิดใช้ iMessage
หลังจากลง iOS5 พร้อมขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Setting
2. เลือก Messages
3. ใส่ Apple ID
4. สามารถเลือกได้ว่าจะสร้าง Apple ID ที่มีอยู่แล้ว หรือสร้างใหม่
5. ถ้าเป็นการสร้างใหม่ ก็เพียงกรอกชื่อ วันเดือนปีเกิด พร้อมอีเมล์ ระบบก็จะส่ง Verify Mail ไปยังอีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้้น
6. ไปที่เมล์ หลังจากนั้นกดตอบรับก็เป็นอันใช้ iMessage ได้

เมื่อมีการ Setup iMessage ในครั้งแรก ระบบจะบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของ iPhone เครื่องนั้นไว้ เพื่อที่ว่าหากมีคนส่ง Message มาหา ถ้าเบอร์ลงทะเบียนไว้จะเป็นการส่งผ่าน iMessage แทน