นอกจากนั้น Function ในแ่ง่ของการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ ก็มีการเตรียม Report ไว้มากหน้าหลายตา ซึ่งก็คงต้องดูกันต่อไปว่า ซึ่งจะว่าไปแล้วก็น่าจะทำได้ดีไม่แพ้กัน เพราะ Google มีทีม Google Analytics ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยม
Application for Fan Page
อีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่ประกาศออกมาชัดเจนว่า API ที่เชื่อมต่อกับ Fan Page สามารถทำอะไรได้บ้าง
บทสรุป
สำหรับ Google+ Business Page ต้องถือว่าดึงจุดแข็งหลาย ๆ จุดมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Circle Hangout รวมถึง Google Analytics ที่แต่ละตัวมีความสามารถที่โดดเด่นอยู่แล้ว แต่เมื่อมองในภาพรวม ยังคิดว่าฟังก์ัชันออกมาน้อยไปหน่อย ไม่สมกับที่รอคอย โดยเฉพาะ UI (User Interface) ที่ยังคล้าย Facebook อยู่มาก แถมบางอย่างเล่นได้น้อยกว่า Facebook ด้วยซ้ำ เช่นการเปลียนภาพโพรไฟล์ที่จำกัดขนาดไว้ที่ 200x200 pixels ซึ่งถือว่าเล็กมาก คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Google+ Business Page จะไปได้ถึงฝั่งฝันที่ตั้งใจไว้หรือไม่
แต่ถ้าอยากสร้าง Google+ Business Page กันแล้ว ตามต่อได้ที่นี่
เมื่อเข้าไปจะมีปุ่ม Create Your Google+ Page ถ้าพร้อมที่จะสร้าง Google Business Page ก็คลิกตามไปเลย... หรือจะเข้าไปที่ URL https://plus.google.com/pages/create ก็ได้เช่นกัน
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ AR มีความเป็น Human Touch มากขึ้น โดยมีการผสมเทคโนโลยี Motion Detection ทำให้ตัว AR เอง สามารถรู้ได้ว่า บริเวณไหนคือส่วนใดของร่างกาย และร่างกายกำลังหันในลักษณะใด เพื่อที่จะ render AR ออกมาให้ถูกต้องมากขึ้น
ตัวอย่างร้าน Jewelly ใน Australia ที่ใช้ AR เป็นตัวช่วยให้ลูกค้าเลือกเครื่องประดับ ได้ถูกใจ สร้างประสบการณ์ใหม่ในการเลือกเครื่องประดับ
นอกจากนั้นก็ยังมีการใช้ AR ผสมเรื่องของ Motion Detection ผ่านทาง Mobile ได้เช่นกัน